เผยเมนูโปรดเจ้าเหมียว แมวชอบกินอะไรบ้าง?

เคยสงสัยกันไหมว่า นอกจากอาหารแมวแล้ว แมวชอบกินอะไรอีกบ้าง? แมวเป็นสัตว์กินเนื้อ แน่นอนว่าอาหารหลักของพวกเค้าก็คือโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ในอดีตพวกเค้าต้องล่าสัตว์เป็นอาหาร แต่เมื่อกลายมาเป็นแมวบ้าน เพียงแค่อาหารปรุงเองง่าย ๆ อย่างน้ำซุปแสนอร่อยก็ทำให้พวกเค้าพึงพอใจได้แล้ว นอกจากนี้ แมวอาจกินผักเป็นบางครั้งบางคราว เพราะต้องการใยอาหารที่จำเป็นเพื่อช่วยเรื่องการย่อยอาหาร

เมื่อมีคำถามในใจว่าแมวกินอะไรได้บ้าง สิ่งสำคัญที่ต้องนึกถึงอยู่เสมอคือ พวกเค้ามีนิสัยช่างเลือกและชอบความหลากหลาย เจ้าเหมียวอาจรู้สึกเบื่อเมื่อต้องกินแต่อาหารเดิม ๆ วันแล้ววันเล่า ทาสแมวจึงควรเปลี่ยนชนิดหรือรสชาติของอาหารบ้างเป็นครั้งคราว วิธีนี้จะทำให้เจ้าเหมียวรักคุณมากยิ่งขึ้นด้วย!

มาติดตามไปพร้อม ๆ กันว่าแมวกินอะไรหรือลูกแมวกินอะไรถึงจะถูกใจและมีสุขภาพดี

ความแตกต่างทางโภชนาการของแมวโตเต็มวัยและลูกแมวตัวน้อย

• ลูกแมวต้องการสารอาหารมากกว่าเพราะอยู่ในวัยกำลังโต

  แมวโตและลูกแมวมีความต้องการทางโภชนาการแตกต่างกัน แมวโตส่วนใหญ่มักจะหมดเวลาไปกับการงีบหลับ จึงไม่ต้องการอาหารที่ให้พลังงานสูง ในทางกลับกัน ลูกแมวต้องการอาหารที่อุดมด้วยโปรตีน โคลีน ทอรีน ไขมัน แคลเซียม และฟอสฟอรัส เพื่อช่วยเสริมพัฒนาการและการเจริญเติบโต บวกกับลูกแมวเต็มไปด้วยพลัง พวกเค้าชื่นชอบการทำกิจกรรมและสำรวจสิ่งต่าง ๆ รอบตัว จึงต้องการอาหารที่ให้พลังงานสูงกว่าแมวโต โดยควรให้อาหารลูกแมวในวัยเจริญเติบโตอย่างน้อยวันละ 6 มื้อ

• ความสำคัญของน้ำนมแม่สำหรับลูกแมว

  เช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมส่วนใหญ่ ลูกแมวแรกเกิดควรกินนมแม่เพื่อรับเอาภูมิต้านทานเข้าสู่ร่างกาย โคลอสตรุมหรือน้ำนมเหลืองอุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันที่ยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ ทำให้ลูกแมวแข็งแรงและมีภูมิต้านทานต่อโรค โดยลูกแมวควรกินนมแม่ในช่วง 4 - 5 สัปดาห์แรก หรืออาจให้อาหารเสริมอย่างนมผงสำหรับลูกแมวด้วยก็ได้

ความต้องการทางโภชนาการของลูกแมว

• พลังงาน

  ต่างจากแมวโตที่ชอบนอนและผ่อนคลาย ลูกแมวส่วนใหญ่ชอบเล่นและผจญภัย พวกเค้าจึงต้องการพลังงานมากกว่าแมวโตถึงสามเท่า การให้อาหารที่มีพลังงานสูงจะช่วยให้พวกเค้ามีแรงเล่นสนุกได้ตลอดทั้งวัน!

• โปรตีน

  ลูกแมวในวัยเจริญเติบโตต้องการโปรตีนมากกว่าแมวโตเต็มวัย โดยโปรตีนจากเนื้อสัตว์เป็นแหล่งพลังงานและสารอาหารที่สำคัญ เนื่องจากอุดมด้วยกรดอะมิโนจำเป็น ทั้งอาร์จินีน ไลซีน และเมไทโอนีน ซึ่งล้วนแล้วแต่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของลูกแมว

• ไขมัน

  เนื่องจากไขมันและกรดไขมันมีปริมาณแคลอรี่สูง จึงเป็นแหล่งพลังงานสำคัญที่ช่วยให้เจ้าตัวน้อยเล่นสนุกได้อย่างเต็มที่

• วิตามินและแร่ธาตุ

  ลูกแมวต้องการวิตามินและแร่ธาตุมากกว่าแมวโต เพื่อเสริมการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่นแมกนีเซียม ทองแดง และวิตามินเอ ซึ่งมีส่วนช่วยให้กระดูกของพวกเค้าแข็งแรง

ปัญหาสุขภาพจากการขาดสารอาหาร

นอกจากภาวะทุพโภชนาการและความหิวโหยแล้ว แมวที่ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการอาจมีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ โดยปัญหาที่พบบ่อยที่สุดอย่างหนึ่งคือตับอ่อนอักเสบ เกิดขึ้นเมื่อเอนไซม์ย่อยอาหารจากตับอ่อนไหลเข้าสู่ช่องท้อง หากลูกแมวได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ เอนไซม์เหล่านี้จะเริ่มสลายไขมันและโปรตีนจากอวัยวะอื่น ๆ ซึ่งนำไปสู่การอักเสบและการเป็นแผลในกระเพาะอาหาร นอกจากนี้การขาดสารอาหารอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคระบบทางเดินปัสสาวะในแมว (FLUTD)

เนื้อสัตว์ที่แมวและลูกแมวต่างโปรดปราน

การเลือกอาหารให้แมวควรพิจารณาจากสายพันธุ์และช่วงวัยเป็นหลัก โดยเนื้อสัตว์และโปรตีนจากสัตว์ถือเป็นส่วนผสมสำคัญในอาหารแมว เนื่องจากเนื้อสัตว์อุดมไปด้วยวิตามิน กรดไขมัน และกรดอะมิโนจำเป็นในปริมาณสูง ซึ่งตรงตามความต้องการของร่างกาย และหากสงสัยว่าแมวกินอะไรกันบ้าง คำตอบคือแมวส่วนใหญ่ชอบกินเนื้อปลา เนื้อไก่ และเนื้อวัวมากเป็นพิเศษ!

• เนื้อปลา

  เมื่อพูดถึงเมนูโปรดของแมว เนื้อปลามักเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่ทาสแมวทุกคนนึกถึง นอกจากรสชาติอร่อยล้ำและเนื้อสัมผัสที่ถูกใจแล้ว เจ้าเหมียวยังหลงใหลในกลิ่นหอมเย้ายวนใจของเนื้อปลาด้วย โดยเนื้อปลาอุดมด้วยแร่ธาตุและกรดอะมิโนที่จำเป็นอย่างทอรีน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาการมองเห็น เพิ่มภูมิคุ้มกัน เสริมการทำงานของหัวใจและกล้ามเนื้อ เนื่องจากแมวรับรู้รสชาติความอร่อยของเนื้อปลาได้เป็นอย่างดี อาหารแมวกว่า 15% จึงมีเนื้อปลาเป็นส่วนผสมหลัก

• เนื้อไก่

  เนื้อไก่เป็นอีกหนึ่งเมนูโปรดของเจ้าเหมียว โดยเป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุอย่างซีลีเนียม วิตามินบี 6 ฟอสฟอรัส กรดไขมัน และโปรตีน ซึ่งมีส่วนช่วยให้ร่างกายของแมวแข็งแรง นอกจากนี้เนื้อไก่ยังมีโซเดียมและไขมันต่ำอีกด้วย เนื่องจากลูกแมวเสี่ยงต่อโรคอ้วนสูง เนื้อไก่จึงเป็นตัวเลือกที่ดีและมีประโยชน์มากเมื่อต้องการควบคุมน้ำหนัก การใช้เนื้อไก่เป็นส่วนผสมหลักในอาหารแมวมีประโยชน์อย่างมาก เพราะช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดูก ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคตับและไต อย่างไรก็ตาม น้องแมวชอบความหลากหลาย จึงควรปรับเปลี่ยนรสชาติอาหารเป็นครั้งคราว แต่หากต้องการให้พวกเค้ากินเนื้อไก่ทุกวัน แนะนำให้ปรุงสุกโดยไม่ใช่น้ำมันหรือเครื่องเทศใด ๆ

• เนื้อวัว

  เนื้อวัวมีรสชาติอร่อยและแปลกใหม่ ทำให้เจ้าเหมียวเพลิดเพลินเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังอุดมด้วยกรดอะมิโนสำคัญจึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมและเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี แม้จะอร่อยมีประโยชน์มากแค่ไหน ก็ควรให้แมวกินเนื้อวัวในปริมาณที่เหมาะสม หากกินมากเกินไปอาจทำให้อาหารไม่ย่อย แนะนำให้เลือกเนื้อวัวที่สดใหม่และไม่ติดมันให้กับเจ้าเหมียว รวมถึงจำเป็นต้องปรุงให้สุกเสมอ เนื่องจากเนื้อวัวดิบมักมีเชื้ออีโคไลและซาลโมเนลลาที่อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรง นอกจากนี้การปรุงเนื้อวัวให้เจ้าตัวน้อยนั้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องเทศ น้ำมัน และเกลือ เพราะอาจส่งผลเสียต่อกระบวนการย่อยอาหารของพวกเค้าได้

อาหารโปรดของแมวและลูกแมว

• เนื้อปลา (ปลาทูน่า, ปลาแซลมอน และปลาแมกเคอเรล)

  ตามที่กล่าวไปแล้วข้างต้น เหล่าแมวเหมียวต่างก็โปรดปรานรสชาติความอร่อยของเนื้อปลา เนื่องจากกลิ่นและรสชาติของปลากระตุ้นประสาทสัมผัสของพวกเค้าได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้แมวไม่สามารถย่อยปลาดิบได้ จึงต้องปรุงให้สุกก่อนเสิร์ฟทุกครั้ง แมวส่วนใหญ่ชอบปลาทูน่า ปลาแซลมอน และปลาแมคเคอเรลเป็นพิเศษ แต่ทาสแมวไม่จำเป็นต้องหาซื้อเนื้อปลาสดมาปรุงเองให้วุ่นวาย คุณสามารถเลือกซื้ออาหารแมวที่มีรสปลาแสนอร่อยแทนได้ง่าย ๆ ตามท้องตลาด เชื่อว่าทาสแมวคงได้คำตอบกันแล้วว่า แมวกินอะไรแล้วจึงจะถูกใจเป็นที่สุด

• แฮม

  เป็นอีกหนึ่งเมนูที่เจ้าเหมียวชื่นชอบ แฮมหรือเนื้อหมูรมควันอัดแน่นไปด้วยโปรตีนและมีรสชาติอร่อยละลายใจเจ้าเหมียว แต่ในขณะเดียวกัน แฮมก็มีแคลอรี่สูง จึงควรให้กินในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อป้องกันปัญหาน้ำหนักตัวเกิน นอกจากนี้มันยังมีโซเดียมสูง ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาในระบบทางเดินปัสสาวะหรือหัวใจ

• ไก่ต้ม

  เนื้อไก่เป็นอาหารที่ดีสำหรับแมว เพราะมีไขมันต่ำแต่อุดมด้วยสารอาหารที่จำเป็นอย่างฟอสฟอรัส วิตามินบี 6 ซีลีเนียม และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งล้วนแต่มีส่วนช่วยเสริมพัฒนาการของเจ้าตัวน้อย ทั้งนี้ในการปรุงเนื้อไก่ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันและเครื่องเทศ เพราะอาจส่งผลเสียต่อระบบย่อยอาหารของแมวได้

• ไข่ไก่

  ไข่เป็นแหล่งโภชนาการที่สำคัญสำหรับน้อวแมว เนื่องจากอุดมไปด้วยกรดอะมิโนและย่อยได้ง่าย อีกทั้งยังมีไขมันดีและซีลีเนียมที่ช่วยเสริมการผลิตฮีโมโกลบิน แต่ไม่แนะนำให้กินไข่ดิบ ควรทำให้สุกก่อนเสิร์ฟให้เจ้าเหมียว เพราะไข่ดิบมีเชื้อแบคทีเรียอย่างซาลโมเนลลา ซึ่งอาจทำให้อาหารไม่ย่อยและท้องเสียได้

• อาหารแมวแบบเม็ดและแบบเปียก

  อาหารแมวแบบสำเร็จรูปก็เป็นอาหารที่เจ้าเหมียวโปรดปรานเช่นกัน ถือเป็นตัวเลือกแสนสะดวกสำหรับเจ้าของที่ไม่มีเวลาปรุงอาหาร หาซื้อง่าย มีให้เลือกหลายรสชาติและเนื้อสัมผัส อาหารเม็ดและอาหารเปียกต่างก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพเจ้าเหมียว ทั้งสองชนิดอุดมไปด้วยโปรตีนคุณภาพดี กรดไขมัน และแร่ธาตุ รวมถึงมีรสชาติอร่อยถูกใจเจ้าเหมียว โดยเฉพาะอาหารเปียกที่มีเนื้อสัมผัสละมุนนุ่มลิ้น อีกทั้งยังช่วยให้เจ้าเหมียวได้รับน้ำเพิ่มมากขึ้นด้วย ขอแนะนำชีบา^® อาหารแมวแบบเปียกเกรดพรีเมียม ที่จะทำให้ทุกมื้ออาหารของเจ้าเหมียวกลายเป็นมื้อพิเศษ!

อาหารต้องห้ามสำหรับแมวและลูกแมวตัวน้อย

ตอนนี้ทาสแมวส่วนใหญ่คงรู้แล้วว่าแมวชอบกินอะไร แต่ต่อไปนี้จะเป็นรายการอาหารต้องห้ามที่ไม่ควรให้แมวกิน

• ผลิตภัณฑ์นม

  แมวชอบกินนมเป็นหนึ่งในความเชื่อผิด ๆ ที่พบบ่อย แต่ในความเป็นจริง แมวส่วนใหญ่ไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตสในนมวัวได้ สำหรับลูกแมวแรกเกิดควรกินนมแม่หรือนมผงสำหรับลูกแมวโดยเฉพาะเท่านั้น

• อาหารไขมันสูง

  โรคอ้วนเป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในแมว แม้จะมีนิสัยเลือกกิน แต่เมื่อเป็นอาหารที่ชอบหรือขนมแสนอร่อย เจ้าเหมียวก็มักจะลืมตัวและเพลิดเพลินกับการกินมากเป็นพิเศษ เจ้าของจึงควรกำหนดปริมาณอาหารให้เหมาะสม และควรหลีกเลี่ยงการให้อาหารที่มีไขมันสูง รวมถึงไม่แนะนำให้แมวกินอาหารของคน เพราะอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง เช่น โรคเกี่ยวกับลำไส้และหัวใจ

• อาหารที่มีรสเค็ม

  แม้ว่าเกลือจะเป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารหลากหลายชนิด แต่สำหรับแมว หากได้รับปริมาณเกลือมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยจะส่งผลให้มีโซเดียมในเลือดสูง ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ นอกจากนี้ยังอาจมีภาวะขาดน้ำ ท้องเสีย อาเจียน และปัสสาวะบ่อย จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการให้อาหารแมวที่มีปริมาณเกลือสูง

• อาหารปรุงไม่สุก

  การเสิร์ฟอาหารที่ปรุงไม่สุกกับแมวไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก เพราะอาจมีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อนได้ อย่างในไข่ดิบและแฮมจะมีเชื้อซาลโมเนลลาหรืออีโคไล ซึ่งสารปนเปื้อนเหล่านี้อาจทำให้เกิดปัญหาในลำไส้หรือกระเพาะอาหาร แมวอาจมีอาการแพ้อาหาร ขาดน้ำ และท้องเสีย นอกจากนี้เอนไซม์ในอาหารดิบยังขัดขวางการดูดซึมสารอาหารอย่างวิตามินบีอีกด้วย

• ช็อกโกแลต

  แม้ว่าช็อกโกแลตจะเป็นขนมหวานแสนอร่อยสำหรับเรา แต่มันเป็นเมนูที่อันตรายมากสำหรับแมว เนื่องจากช็อกโกแลตอุดมไปด้วยคาเฟอีนและธีโอโบรมีน ซึ่งเป็นพิษกับสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ยังมีน้ำตาล ไขมัน และไซลิทอลเชิงซ้อนที่แมวไม่สามารถย่อยได้ หากพบว่าแมวกินช็อกโกแลตเข้าไป ควรรีบพาพวกเค้าไปพบสัตวแพทย์ในทันที!

• ผลไม้ตระกูลส้ม

  เช่นเดียวกับช็อกโกแลต ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวก็เป็นเมนูต้องห้ามสำหรับแมว ทั้งใบ เมล็ด และลำต้นของผลไม้รสเปรี้ยว จะมีกรดซิตริกในระดับต่างกัน โดยกรดชนิดนี้อาจทำให้เจ้าเหมียวท้องไส้ปั่นป่วนได้ ยิ่งไปกว่านั้น กรดซิตรัสยังเป็นภัยคุกคามต่อระบบประสาทของแมวด้วย ซึ่งอาจทำให้พวกเค้ามีอาการชักและเป็นอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเลือกอาหารให้แมว