รวมเคล็ดลับในการดูแลเมื่อน้องแมวเครียด
ใครว่าเป็นแมวมันง่าย โดนเอาอกเอาใจตลอดเวลาก็เหนื่อยเหมือนกันนะ! ทาสแมวส่วนใหญ่คงรู้กันดีว่าเจ้าเหมียวอ่อนไหวง่าย มีหลากหลายอารมณ์ และค่อนข้างไวต่อความความรู้สึก พวกเค้ารับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้อย่างรวดเร็ว อาจจะฟังดูเป็นเรื่องที่ดี แต่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันจะทำให้น้องแมวเครียดและรู้สึกไม่ปลอดภัย ซึ่งถ้าเกิดขึ้นบ่อยอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้ด้วย
การป้องกันไม่ให้น้องแมวเครียดจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าน้องแมวกำลังเครียด? เราสามารถสังเกตได้จากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป จากแมวเหมียวที่ชอบเข้าหาคนก็กลายเป็นเก็บตัว ไม่ยอมให้จับหรือกอด บางครั้งก็อาจแสดงอาการก้าวร้าวและส่งเสียงขู่
นอกจากนี้ความเครียดอาจทำให้น้องแมวกินอาหารและน้ำน้อยลงจนส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว ทาสแมวจึงควรหมั่นสังเกตความผิดปกติ รวมถึงควรเรียนรู้วิธีแก้แมวเครียดกันไว้ด้วย
สัญญานเตือนของอาการแมวเครียด
ความเครียดในแมวสามารถสังเกตได้จากความผิดปกติทั้งทางร่างกายและพฤติกรรม ซึ่งความผิดปกติเหล่านี้จะช่วยให้เราหาสาเหตุของแมวเครียด วิธีแก้ไข หรือวิธีบรรเทาได้อย่างเหมาะสม
-
ความผิดปกติทางร่างกาย
-
ท้องเสีย
นอกจากจะเป็นอาการเตือนของปัญหาสุขภาพแล้ว อาการท้องเสียก็บ่งบอกถึงความเครียดในแมวได้เช่นกัน โดยจะส่งผลให้ร่างกายขาดน้ำอย่างรวดเร็ว อ่อนเพลีย และอาจนำไปสู่อาการเจ็บป่วยอื่น ๆ หากพบว่าน้องแมวท้องเสียติดต่อกันนาน 2 – 3 วัน ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
-
อาเจียน
เป็นอีกหนึ่งอาการสำคัญที่พบได้ในน้องแมวที่กำลังเครียด หากพวกเค้าอาเจียนบ่อยหรือนานติดต่อกัน 2 – 3 วัน แนะนำให้พาไปพบสัตวแพทย์ทันที อาการอาเจียนส่งผลให้ร่างกายน้องแมวขาดน้ำและไม่อยากอาหาร กรณีที่อาเจียนอย่างต่อเนื่อง ร่างกายก็จะขาดสารอาหาร ส่งผลให้น้องแมวป่วยหนักยิ่งขึ้น
-
น้ำมูกและน้ำตาไหล
อาการน้ำมูกไหลอาจทำให้น้องแมวรู้สึกไม่สบายและเลียจมูกบ่อยขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การติดเชื้อแบคทีเรีย ส่วนอาการน้ำตาไหลนั้น ทำให้เกิดเป็นคราบน้ำตาเกรอะกรัง เพิ่มโอกาสในการติดเชื้อแบคทีเรียได้เช่นเดียวกัน
-
เบื่ออาหาร
อาการเครียดอาจส่งผลให้น้องแมวกินน้ำและอาหารน้อยลง ผลที่ตามมาคือร่างกายจะอ่อนแอ ป่วยง่าย ขาดน้ำ และขาดสารอาหาร เพื่อหาสาเหตุที่น้องแมวเครียด วิธีแก้ที่ได้ผล หรือต้องดูแลพวกเค้าให้แข็งแรงอย่างไรบ้าง เจ้าของสามารถปรึกษาขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากสัตวแพทย์ได้
-
น้ำหนักขึ้น-ลงเร็วผิดปกติ
ความเครียดส่งผลต่อการกินอาหารของน้องแมว พวกเค้าจึงอาจมีน้ำหนักขึ้นหรือลงเร็วผิดปกติ ในขณะที่อาการเบื่ออาหาร ทำให้ร่างกายอ่อนแอและป่วยง่าย การกินอาหารมากขึ้นก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน โดยเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอ้วน โรคหัวใจ และปัญหาเกี่ยวกับไต
-
-
ความผิดปกติทางพฤติกรรม
-
พฤติกรรมเปลี่ยน
ความเครียดมักส่งผลต่อพฤติกรรมของน้องแมว จากเจ้าก้อนขนสุดน่ารัก อาจกลายเป็นเจ้าเหมียวอารมณ์ร้าย หากพบว่าน้องแมวเริ่มเก็บตัว พยายามหนีออกห่าง ไม่ยอมให้ลูบหรือกอด อาจบ่งบอกได้ว่าน้องแมวมีอาการเครียด
-
ขับถ่ายไม่เป็นที่
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างการย้ายบ้านอาจทำให้น้องแมวเครียดและวิตกกังวล ซึ่งอาการเหล่านี้อาจเป็นไปอย่างต่อเนื่องจนกว่าพวกเค้าจะปรับตัวได้ ทั้งนี้น้องแมวบางตัวอาจมีพฤติกรรมขับถ่ายนอกกระบะทราย เนื่องจากรู้สึกไม่ปลอดภัยและต้องการปกปิดความอ่อนแอของตัวเอง
-
ลับเล็บบ่อยผิดปกติ
การฝนหรือลับเล็บถือเป็นพฤติกรรมทั่วไปของแมวเหมียว เพื่อดูแลเล็บให้แหลมคมและกำจัดเซลล์เนื้อเยื่อที่ตายแล้วออกไป แต่ถ้าน้องแมวลับเล็บบ่อยจนผิดสังเกต นั่นแปลว่าพวกเค้ากำลังพยายามลับเล็บให้คมเพื่อรอที่จะตอบโต้กับอะไรบางอย่าง ซึ่งสิ่งนี้เป็นหนึ่งในสัญญาณบ่งบอกถึงความเครียด
-
พฤติกรรมก้าวร้าว
ถือเป็นพฤติกรรมที่พบได้บ่อย โดยน้องแมวส่วนใหญ่จะมีท่าทางผ่อนคลายและสงบ แต่สำหรับน้องแมวที่กำลังเครียดนั้น พวกเค้าจะมีอาการกระสับกระส่าย อยู่ไม่นิ่ง ดูหวาดระแวงตลอดเวลา หากพบว่าน้องแมวตีตัวออกห่างหรือหลบไปพักอยู่เพียงลำพัง แนะนำว่าไม่ควรเข้าไปรบกวน
-
ร้องเรียกบ่อย
น้องแมวโตเต็มวัยมักจะส่งเสียงร้องเมี้ยวเพื่อทักทายทาสแมวคนโปรด แต่บางครั้งพวกเค้าอาจส่งเสียงบ่อยขึ้น เพื่อเรียกร้องความสนใจ รวมถึงเป็นการส่งสัญญาณให้ทาสรู้ถึงความผิดปกติและขอความช่วยเหลือ ในช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้ อย่าลืมดูแลเอาใจใส่พวกเค้ากันอย่างใกล้ชิด
-
วิธีบรรเทาอาการเครียดในแมว
หากเจ้าก้อนขนฟูของคุณกำลังทุกข์ทรมานจากความวิตกกังวลและความเครียด เรื่องสำคัญที่เจ้าของจำเป็นต้องรู้คือวิธีทำให้แมวหายเครียดก่อนที่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ซึ่งเราได้รวบรวมวิธีทั้งหมดมาให้คุณแล้วที่นี่
-
เลือกกระบะทรายให้เหมาะสม
เพื่อบรรเทาอาการแมวเครียด วิธีแก้ง่าย ๆ คือเลือกกระบะทรายที่เหมาะกับขนาดตัวของพวกเค้า ทำความสะอาดเป็นประจำ และควรจัดวางในพื้นที่สงบ เนื่องจากเวลาขับถ่ายถือเป็นช่วงเวลาส่วนตัว น้องแมวจึงลดการป้องกันตัวลง
-
เลือกให้อาหารคุณภาพดี
อาหารอร่อยจะเยียวยาทุกอย่าง! ทาสแมวควรเลือกอาหารคุณภาพดีรสชาติเยี่ยมให้กับเจ้าเหมียวเพื่อช่วยบรรเทาความเครียด และหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดคือ ชีบา® อาหารแมวเกรดพรีเมียมที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและสมดุล รวมทั้งมีรสชาติอร่อยถูกใจบรรดาเจ้าเหมียว
-
เตรียมชามน้ำไว้รอบบ้าน
ความเครียดส่งผลให้น้องแมวกินน้ำน้อยลง อีกทั้งยังมีโอกาสที่จะท้องเสียและอาเจียน ซึ่งทั้งหมดนี้นำไปสู่ภาวะขาดน้ำ หากปล่อยทิ้งไว้นาน ก็จะเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะไตวายและโรคตับ ทาสแมวจึงควรเตรียมชามน้ำไว้ตามมุมต่าง ๆ รอบบ้าน โดยเลือกมุมที่เข้าถึงง่ายและสะอาด
-
มีคอนโดแมวติดบ้าน
การอยู่บนที่สูงเพื่อสอดส่องสภาพแวดล้อมรอบตัวเป็นหนึ่งในสัญชาตญาณตามธรรมชาติของแมว หากเจ้าเหมียวของคุณมีอาการเครียด ลองเตรียมคอนโดแมวหรือติดชั้นรอบ ๆ บ้านให้พวกเค้าปีนป่าย เพราะการอยู่บนที่สูงช่วยให้พวกเค้ารู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลายมากขึ้น
-
ชวนน้องแมวเล่นเป็นประจำ
นอกจากจะได้ปลดปล่อยพลังงานแลัว การเล่นยังช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้รู้สึกดีมีความสุข อีกหนึ่งประโยชน์ของการเล่นคือช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเจ้าเหมียวให้แน่นแฟ้นกันมากยิ่งขึ้น
-
หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน
แมวไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เช่น การจัดบ้านใหม่หรือการย้ายที่อยู่ พวกเค้าต้องใช้เวลาในการปรับตัวให้คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมใหม่ ซึ่งวิธีแก้แมวเครียดจากการเปลี่ยนแปลงที่ดี คือปล่อยให้พวกเค้าค่อย ๆ สำรวจพื้นที่ภายในบ้าน อย่าบังคับหรือเร่งรัดพวกเค้าจนเกินไป
-
เตรียมเสาลับเล็บให้พร้อม
นอกจากทำให้เล็บคมพร้อมใช้งานและกำจัดเซลล์เนื้อเยื่อที่ตายแล้ว การลับเล็บยังช่วยให้เจ้าเหมียวได้ระบายอารมณ์จนรู้สึกผ่อนคลายและเครียดน้อยลง นอกจากการเตรียมเสาลับเล็บแล้ว คุณอาจหาของเล่นให้พวกเค้ากัดแทะคลายเครียดเพิ่มได้เช่นกัน
-
ขอคำแนะนำจากสัตวแพทย์
การปล่อยให้น้องแมวเครียดเป็นเวลานานโดยไม่ดูแลรักษาอาจส่งผลเสียต่อทั้งจิตใจและร่างกาย พวกเค้าจะกลายเป็นแมวเก็บตัว ไม่ต้องการมีปฏิสัมพันธ์กับใคร ส่วนร่างกายจะมีภูมิคุ้มกันลดลงและอ่อนแอจนป่วยง่าย ดังนั้นหากน้องแมวมีอาการเครียด ควรรีบปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำในการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม
หากต้องการช่วยบรรเทาความเครียดและเพิ่มความอยากอาหารให้น้องแมว ลองเสิร์ฟ ชีบา® อาหารแมวเกรดพรีเมียมแสนอร่อยให้พวกเค้า เพราะมีสารอาหารครบถ้วนและสมดุล อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ไม่เพียงแต่ช่วยให้เจ้าตัวน้อยมีสุขภาพดี แต่ยังเพิ่มพลังงานให้พวกเค้าพร้อมลุยทุกกิจกรรม มาช่วยให้น้องแมวผ่อนคลายกันได้ง่าย ๆ ด้วยเมนูอร่อยจากชีบา® ที่มีให้เลือกตั้งแต่อาหารเปียกไปจนถึงขนมแมวเลียที่เจ้าเหมียวเลิฟ เพราะทุกมื้อจากชีบา® เป็นมื้อที่พิเศษที่สุด
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับความเครียดในแมว
-
หากน้องแมวเครียดจนเกินไปจะเกิดอะไรขึ้น?
ความเครียดเป็นสัญญาณอันตราย มันส่งผลเสียต่อสุขภาพและทำให้พฤติกรรมของน้องแมวเปลี่ยนไป เช่น ก้าวร้าว เก็บตัว อยู่ไม่นิ่ง กระสับกระส่าย นอกจากนี้อาจมีอาการเบื่ออาหาร อาเจียนบ่อย ท้องเสีย และน้ำหนักตัวขึ้นลงอย่างรวดเร็วร่วมด้วย
-
อาการที่บ่งบอกว่าน้องแมวกำลังเครียดมีอะไรบ้าง?
หนึ่งในอาการที่พบได้บ่อยคือน้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน น้องแมวบางตัวก็อาจกินอาหารน้อยลง มีพฤติกรรมก้าวร้าว ลับเล็บบ่อยขึ้น และขับถ่ายนอกกระบะทราย
-
แคทนิปช่วยลดอาการเครียดในแมวได้หรือไม่?
แคทนิปถือเป็นตัวช่วยที่ยอดเยี่ยมในการแก้แมวเครียด เพราะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย สัตวแพทย์เองก็แนะนำให้ใช้เพื่อบรรเทาอาการเครียด
-
จะรู้ได้อย่างไรว่าน้องแมวเครียดหรือป่วย?
หากน้องแมวมีอาการเบื่ออาหาร อาเจียน ท้องเสีย น้ำมูกและน้ำตาไหล แปลว่าพวกเค้ากำลังป่วย แต่ถ้าน้องแมวมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปด้วย เช่น ลับเล็บบ่อยขึ้นจนผิดปกติ ก้าวร้าว และส่งเสียงร้องอย่างต่อเนื่อง นั่นหมายความว่าพวกเค้ากำลังเครียด
-
ความเครียดส่งผลเสียอย่างไรบ้าง?
นอกจากทำให้สภาพจิตใจย่ำแย่แล้ว ความเครียดยังส่งผลเสียต่อร่างกายด้วย ความเครียดทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง จึงอ่อนแอและป่วยง่าย น้องแมวที่มีอาการเครียดอาจเก็บตัว ไม่ยอมพบเจอใคร และหงุดหงิดง่าย จึงไม่ควรเข้าไปรบกวนหากพวกเค้าต้องการอยู่เพียงลำพัง