เคล็ดลับวิธีการเล่นกับแมว

การเล่นเป็นรากฐานสำคัญของสุขภาพกายใจที่ดีของเพื่อนขนปุยของคุณ สำหรับลูกแมวและแมวโตเต็มวัย การเล่นไม่ใช่แค่งานอดิเรกเท่านั้น แต่เป็นวิธีสำคัญในการกระตุ้นจิตใจและการออกกำลังกายไปพร้อมๆ กันด้วย

ขณะที่แมวของคุณกระโดด กระโจน และไล่ล่าเหยื่อในจินตนาการระหว่างการเล่นนั้น ทุกๆ การขยับตัวล้วนมีส่วนสำคัญต่อพัฒนาการทางจิตใจ ด้วยการเล่นแบบมีปฏิสัมพันธ์ คุณในฐานะเจ้าของกำลังฝึกให้พวกเขาได้ฝึกประสาทการรับรู้ที่จำเป็นสำหรับแมวคู่ใจของคุณ และเสริมสร้างความฉลาดรวมถึงทักษะในการแก้ปัญหาต่างๆ

อย่างไรก็ตาม การเล่นไม่ได้เป็นเพียงการพัฒนาด้านสมองและความฉลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นการออกกำลังกายอย่างหนักที่ช่วยให้แมวได้ปลดปล่อยพลังงาน ส่งเสริมให้แมวมีสุขภาพดีขึ้น และป้องกันโรคหรืออาการเจ็บป่วยที่มาจากการนอนเฉยๆ และการเล่นยังสามารถบอกบุคลิกของแมวแต่ละตัว ทำให้มองเห็นลักษณะและความชอบเฉพาะตัวของแมวได้

สิ่งสำคัญที่สุด การเล่นกับแมวของคุณไม่ใช่แค่เพื่อความสนุกสนานเท่านั้น แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งอีกระหว่างคุณกับเจ้าเหมียวขนฟูอีกด้วย ช่วงเวลาแห่งความสุขเหล่านี้จะสร้างการเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น แถมยังเพิ่มความไว้วางใจและความเข้าใจระหว่างแมวกับเจ้าของอีกด้วย

บทความนี้ถือเป็นตั๋วของคุณในการไขความลับ เล่นกับแมวอย่างไรให้มีประสิทธิภาพและสนุกสนาน  ค้นพบคำแนะนำและเคล็ดลับที่ไม่เพียงช่วยพัฒนาร่างกายและจิตใจให้แมวของคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยกระชับความสัมพันธ์พิเศษที่คุณมีร่วมกันอีกด้วย!

ทำไมเราควรเล่นกับแมว?

• พัฒนาทางร่างกายและความคล่องตัว

  สำหรับลูกแมวตัวน้อยที่ไร้เดียงสา การเล่นนั้นเป็นมากกว่ากิจกรรมเพื่อความบันเทิง แต่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการพัฒนาทางร่างกายของลูกแมว การเล่นเช่น การไล่ล่าของเล่น การวิ่ง หรือการสำรวจสิ่งรอบตัว มีส่วนช่วยอย่างมากในการพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหวและการประสานงานของอวัยวะต่างๆ การวิ่ง การกระโจน และปีนป่ายระหว่างเวลาเล่นทำตามธรรมชาติสำหรับลูกแมว เสริมสร้างความแรงและความคล่องตัวให้ลูกแมวเติบโตเป็นแมวโตเต็มวัย

• ทักษะทางสังคมและการสื่อสาร:

  นอกเหนือจากประโยชน์ทางร่างกายแล้ว การเล่นยังเป็นวิธีการพัฒนาทักษะทางสังคมให้ลูกแมว โดยเป็นกิจกรรมสำหรับลูกแมวในการฝึกฝนทักษะการสื่อสาร ผ่านการเล่นแบบมีปฏิสัมพันธ์กับลูกแมวตัวอื่นๆ หรือแม้กระทั้งมนุษย์ ลูกแมวเรียนรู้ที่จะเข้าใจภาษากาย เสียงร้อง และควบคุมแรงในการเล่น ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมในช่วงแรกของวัยถือเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการเติบโตเป็นแมวโตที่เข้าสังคมได้ดี

• เป็นกิจกรรมที่สะท้อนถึงการเจริญเติบโตของแมว

  เมื่อลูกแมวอายุได้ประมาณ 14 สัปดาห์ ลักษณะการเล่นของลูกแมวจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด พวกมันไม่พอใจกับเล่นลูกบอลง่ายๆ อีกต่อไปแล้ว สัญชาตญาณนักล่าที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ลูกแมวเริ่มชอบกิจกรรมการสะกดรอยตาม การตะครุบ การจับ และบางครั้งการกัดเบาๆ กลายเป็นกิจกรรมโปรดของพวกมัน

  หลังจาก 14 สัปดาห์ขึ้นไป ลูกแมวจะแสดงพฤติกรรมที่สะท้อนถึงบรรพบุรุษมากยิ่งขึ้น การกระทำที่สะกดรอยตาม กระโจน และกัดเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงการเล่นเท่านั้น เพราะถ้าย้อนสายกลับไปบรรพบุรษของแมวแล้ว สัญชาตญาณเหล่านี้เป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับนักล่า ในป่า และมีความสำคัญต่อการเอาชีวิตรอด และแม้แต่ในปัจจุบัน ทักษะเหล่านี้ก็ยังคงติดในธรรมชาติของแมว

• เป็นช่องทางให้ปลดปล่อยสัญชาตญาณนักล่า:

  การเล่นมีจุดประสงค์สองประการสำหรับลูกแมว ไม่เพียงแต่ช่วยขัดเกลาสัญชาตญาณนักล่าเท่านั้น แต่ยังเป็นทางออกที่สร้างสรรค์สำหรับพฤติกรรมเหล่านี้อีกด้วย ของเล่นที่เลียนแบบเหยื่อ เช่น ไม้ติดขนนกหรือหนูของเล่นวิ่งได้นั้น ช่วยให้ลูกแมวได้ปลดปล่อยสัญชาตญาณเหล่านี้ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและได้รับการควบคุม สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ป้องกันพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์เท่านั้น แต่ยังช่วยให้เกิดการพัฒนาความสามารถในการล่าสัตว์อย่างรอบด้านอีกด้วย

• แก้เบื่อหน่าย และเป็นการออกกำลังกายสำหรับแมวในร่ม:

  แมวที่เลี้ยงในบ้านที่ปราศจากสิ่งกระตุ้นจากสภาพแวดล้อมภายนอก อาจต้องเผชิญกับความเบื่อหน่าย การเล่นกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการบรรเทาความเบื่อหน่ายนี้ การเล่นแบบมีปฏิสัมพันธ์ไม่เพียงแต่ช่วยลดความเบื่อเท่านั้น แต่ยังช่วยให้แมวในบ้านได้รับการออกกำลังกายอย่างเพียงพอ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการรักษาสุขภาพโดยรวมและป้องกันปัญหาที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วนได้

ประเภทของการเล่นกับแมว

• การเล่นแบบโต้ตอบ:

  แมวบางตัวเป็นจ้าวสังคม ที่ชอบมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ในขณะเล่น พวกเขามักเพลิดเพลินไปกับเกมหรือการเล่นที่มีคุณร่วมด้วย เช่นให้คุณเหวี่ยงไม้ขนนก ตัวชี้เลเซอร์ หรือแม้แต่เชือกธรรมดาๆ โดยเทคนิคคือให้เราดูพฤติกรรมของเจ้าเหมียวและเล่นตามจังหวะของแมว การเล่นประเภทนี้จะกระชับความสัมพันธ์ของคุณกับเจ้าเหมียว คุณมีความสุข เจ้าเหมียวได้ออกกำลังกาย ทั้งสองฝ่ายได้ประโยชน์ด้วยกัน

• เล่นเพียงลำพัง:

  ในทางกลับกัน แมวบางตัวก็พอใจกับการเล่นเพียงลำพัง แมวรักอิสระเหล่านี้ชอบของเล่นที่สามารถตบ ไล่ล่า และต่อสู้ด้วยตัวเองได้ ของเล่น เช่น ลูกบอล หนูกัญชาแมว หรือที่ป้อนอาหารแบบพัซเซิล ที่สามารถสร้างความบันเทิงให้กับเจ้าเหมียวรักสันโดษได้เป็นเวลาหลายชั่วโมง การเล่นเพียงลำพังเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับแมวที่ต้องอยู่ตามลำพังเป็นเวลานาน เพราะจะช่วยให้แมวมีความกระตือรือร้นและมีกิจกรรมทำในขณะที่คุณไม่อยู่

• การเล่นแบบผสมผสาน:

  สำหรับแมวที่ชื่นชอบความหลากหลาย การผสมผสานระหว่างการเล่นแบบโต้ตอบและการเล่นเพียงลำพังถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ พวกเขาอาจสนุกกับเกมไล่ล่ากับคุณสักครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเล่นต่อด้วยตัวเองกับลูกบอลสำหรับกัดหรือของเล่นอื่นๆ ต่อ วิธีการเล่นแบบผสมผสานนี้ทำให้พวกเขาเพลิดเพลินไปกับข้อดีของการเล่นทั้งสองแบบ การรู้ว่าเมื่อใดที่แมวของคุณอยู่ในอารมณ์สำหรับการเล่นแบบไหน จะทำให้มั่นใจว่าพวกเขาจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเล่นของพวกเขา

วิธีเล่นกับแมวของคุณ

• ใช้ของเล่นแมว:

  ลองลงทุนในของเล่นเพื่อความบันเทิงสำหรับแมว เช่น ของเล่นแบบเชือกหรือตัวชี้เลเซอร์  ของเล่นแมวเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นสัญชาตญาณตามธรรมชาติของแมว ทำให้แมวเพลิดเพลินตลอดการเล่น

• ประดิษฐ์ของเล่นแมวเองแบบ DIY:

  สร้างสรรค์ของเล่นแมว DIY เพื่อให้เพื่อนแมวของคุณเพลิดเพลิน สิ่งของง่ายๆ เช่น กระดาษลังจากของที่เอฟมา หรือถุงพลาสติกจากร้านค้าก็สามารถให้ความสนุกสนานได้ไม่รู้จบ

• เล่นเกมแบบมีปฏิสัมพันธ์:

  เพิ่มสีสันให้กับเวลาเล่นเกมด้วยเกมอย่างซ่อนหา วิ่งไล่จับ หรือชักเย่อ กิจกรรมเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากความอยากรู้อยากเห็นแถมยังช่วยให้แมวได้ใช้พลังงาน ช่วยให้แมวและคุณมีกิจกรรมที่สนุกสนานและมีชีวิตชีวา

• การกรูมมิ่ง:

  เปลี่ยนการดูแลเอาใจใส่ให้เป็นช่วงเวลาสานสัมพันธ์ แมวส่วนใหญ่เอนจอยกับการแปรงขนอย่างอ่อนโยน ไม่เพียงแต่ช่วยให้ขนมีสุขภาพดี แต่ยังกระชับความสัมพันธ์ระหว่างคุณและเพื่อนแมวของคุณด้วย

• ดู "Cat TV" ด้วยกัน:

  Cat TV คือวิดิโอที่สร้างมาเพื่อดึงความสนใจของแมว ทำให้เจ้าเหมียวได้เพลิดเพลินกับการรับชม คุณสามารถเปิด Cat TV ในอินเตอร์เน็ตบนทีวีจอใหญ่และนั่งดู "Cat TV" กับเพื่อนเหมียวด้วยกันเพื่อสร้างประสบการณ์ที่สนุกสนานร่วมกัน

• สร้างเกมปริศนาหาอาหาร:

  ทำให้มื้ออาหารธรรมดาๆ เป็นการผจญภัยด้วยการสร้างปริศนาสำหรับเจ้าเหมียวที่อยากกินอาหาร โดยการวางขนมไว้ในกล่องปิดที่มีรูเจาะ เพื่อกระตุ้นให้แมวของคุณใช้ทักษะการแก้ปัญหาเพื่อรับรางวัลอันแสนอร่อย

• สร้างสนามแมวเล่นด้วยกล่องกระดาษแข็ง:

  แมวชื่นชอบกล่องกระดาษแข็งและถุงกระดาษ เปลี่ยนพวกมันให้เป็นสนามเด็กเล่นด้วยการเจารู เพิ่มอุโมงค์ หรือสร้างเขาวงกตหลายระดับ จากนั้นให้แมวของคุณเล่นสิ

• งีบหลับด้วยกัน:

  บางครั้งการเล่นที่ดีที่สุดคือการงีบหลับบนที่นอนนุ่มๆ ร่วมกัน แบ่งปันช่วงเวลาเงียบสงบกับแมวของคุณด้วยการนอน สิ่งนี้ไม่เพียงแต่เสริมสร้างความผูกพันของคุณเท่านั้น แต่ยังให้การพักผ่อนที่ผ่อนคลายและเงียบสงบ เพิ่มพลังงานความสดใสอีกด้วย

สิ่งที่ไม่ควรทำตอนเล่นกับแมว

เมื่อเล่นกับแมวของคุณ มีบางสิ่งที่ไม่ควรทำเพื่อแมวของคุณมีประสบการณการเล่นที่มีความสุข ข้อควรพิจารณาที่สำคัญอย่างหนึ่งคือการปล่อยให้แมวของคุณได้สัมผัสกับขั้นตอนตามธรรมชาติของการล่าสัตว์ทั้งการ ล่า  จับ และ จัดการ "เหยื่อ" ของพวกมันระหว่างเล่น แมวมีสัญชาตญาณที่ฝังลึกใน DNA ตามธรรมชาติในการล่าสัตว์ และการขัดจังหวะขั้นตอนเหล่านี้ก่อนเวลาอันควรอาจทำให้เจ้าเหมียวเกิดความหงุดหงิดได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปล่อยให้พวกเขาทำตามลำดับทั้งหมด ตั้งแต่การสะกดรอยตามไปจนถึงการกระโจนและการจับ เพื่อให้แมวได้รับความพึงพอใจสูงสุดจากการเล่น

อีกแง่มุมหนึ่งที่ควรหลีกเลี่ยงคือการใช้พอยน์เตอร์เลเซอร์เป็นเครื่องมือในการเล่น แม้ว่าความตื่นเต้นในการไล่ตามแสงที่แว๊บไปแว๊บมาในตอนแรกอาจเป็นเรื่องที่น่าเพลิดเพลิน แต่การไม่สามารถจับ "เหยื่อ" แสงสีแดงนี้ได้สักทีก็อาตจทำให้แมวหงุดหงิดได้ แมวพึงพอใจในการจับเป้าหมายได้ แต่เราทราบดีว่าเลเซอร์ไม่สามารถจับได้ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความไม่พอใจและหงุดหงิดได้

สิ่งทึ่ควรจำเมื่อเล่นกับแมว

• จัดช่วงเวลาเล่นช่วงสั้นๆ สอง - สาม ช่วงต่อวัน:

  การเล่นสั้นๆ เป็นประจำตลอดทั้งวันจะเป็นประโยชน์ต่อแมวของคุณมากกว่าการเล่นเป็นเวลานานๆ แมวมักจะมีพลังงานพลุ่งพล่านช่วงเวลาหนึ่ง แต่เป็นช่วงเวลาสั้นๆ การเล่นเป็นช่วงสั้นๆ จะทำให้แมวสนุกและไม่เบื่อ

• ยอมให้แมวของคุณจับของเล่นเมื่อสิ้นสุดแต่ละเกม:

  การปล่อยให้แมวของคุณจับของเล่นของพวกเขาได้สำเร็จเมื่อสิ้นสุดการเล่นแต่ละครั้งถือเป็นการกระตุ้นตามสัญชาตญาณการล่าสัตว์ของพวกเขา แถมยังทำให้พวกเขารู้สึกถึงความสำเร็จ สิ่งนี้ช่วยในให้แมวสนใจและมีความกระตือรือร้นสำหรับการเล่นในครั้งต่อๆ ไป

• อย่าบังคับแมวของคุณให้เล่นหรือฝึก:

  แมวมีบุคลิกเฉพาะตัว การบังคับให้แมวเล่นหรือฝึกอาจสร้างความเครียดและทำให้แมวดื้อได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเคารพความต้องการของแมวและปล่อยให้แมวให้ความร่วมมือตามจังหวะและระดับความต้องการของตนเอง

• เมื่อสิ้นสุดแต่ละครั้ง ให้เก็บของเล่นให้เรียบร้อย หรืออะไรก็ตามที่อาจเป็นอันตรายต่อแมวของคุณ:

  การดูแลสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับแมวของคุณเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง การเก็บของเล่นให้เรียบร้อยเมื่อสิ้นสุดการเล่นแต่ละครั้งจะช่วยป้องกันการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ และรักษาพื้นที่เล่นของแมวให้ปลอดภัย

• มีความสุขในการเล่น!:

  เวลาเล่นคือการมีปฏิสัมพันธ์ที่สนุกสนานระหว่างคุณกับแมวของคุณ เราควรผ่อนคลาย เพลิดเพลินกับช่วงเวลา และปล่อยให้ประสบการณ์เป็นที่น่ารื่นรมย์ร่วมกัน พลังด้านบวกของคุณมีส่วนช่วยให้ทั้งคุณและเพื่อนแมวของคุณมีช่วงเวลาเล่นที่มีความสุขและมีส่วนร่วม

FAQ