เสียงแมวมีความหมายว่าอย่างไเสียงแมวที่พบบ่อยร: เข้าใจภาษาสื่อสารของเจ้าเหมียวของคุณ

แมวไม่ได้แสดงอารมณ์ผ่านสีหน้า จึงทำให้การตีความอารมณ์ของพวกเขาเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ถ้าคุณตั้งใจฟังเสียงแมวของคุณเปล่งออกมา คุณจะเข้าใจอารมณ์และความต้องการของพวกเขาได้ดีขึ้น ในบทความนี้จะช่วยถอดรหัสเสียงแมวแบบต่างๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและอบอุ่นกับเพื่อนขนฟูของคุณ!

เสียงแมวและลูกแมวพร้อมความหมายของเสียงเหล่านี้

• เสียงเหมียว:

  เสียงเมียวมักเป็นการขออาหาร เรียกร้องความสนใจ หรืออยากเข้าพื้นที่ เช่น ออกไปข้างนอก แมวแต่ละตัวมี "ภาษาพูด" เฉพาะตัว และเสียงเหมียววจะมีโทนและความสูงต่ำที่แตกต่างกันไปตามสถานการณ์

• เสียงเพอร์:

  ส่วนใหญ่มักเป็นสัญญาณของความสุขและความพอใจ เสียงเพอร์บางครั้งอาจเกิดขึ้นเมื่อแมวเครียด วิตกกังวล หรือเจ็บปวด เสียงเพอร์เป็นวิธีที่น้องแมวใช้เพื่อปลอบโยนตัวเองในสถานการณ์ที่ไม่สบายใจ

• เสียงขู่:

  เสียงแมวร้องขู่เป็นคำเตือนชัดเจนว่าพวกเขารู้สึกถูกคุกคามหรือกลัว เสียงนี้เป็นเสียงป้องกันตัวที่ใช้บอกให้อีกฝ่ายถอยออกไป และแสดงถึงความไม่สบายใจ

• เสียงจิ๊บๆ หรือเสียงขบฟัน:

  เสียงนี้มักได้ยินเมื่อแมวมองเหยื่อ เป็นการแสดงถึงความตื่นเต้นและหงุดหงิด บางคนเชื่อว่าเสียงนี้เลียนแบบเสียงนกหรือสัตว์ฟันแทะในรูปแบบของ "ภาษาล่าเหยื่อ"

• เสียงร้องแหลมสั้นๆ:

  เสียงแมวร้องที่เป็นมิตร เสียงร้องแหลมสั้นๆ เป็นเสียงที่แมวใช้ทักทายกันโดยทั่วไป โดยอาจเป็นเสียงเรียกแมวเมื่อแม่แมวกำลังตามหาลูก ส่วนแมวโตจะใช้เสียงนี้เพื่อทักทายคนหรือสัตว์เลี้ยงอื่นๆ เพื่อแสดงความรักใคร่หรือความอยากรู้อยากเห็น

• เสียงร้องหง่าว:

  เสียงลูกแมวร้องอาจเป็นสัญญาณของความเครียด การหลงทาง หรือความไม่สบายตัว แมวโตอาจร้องเสียงนี้เพราะสับสน หรือแมวตัวเมียที่ยังไม่ได้ทำหมันมักร้องเสียงนี้เมื่อเป็นสัดเพื่อดึงดูดคู่ นอกจากนี้ยังอาจบ่งบอกถึงความเหงาหรือความต้องการความสนใจได้อีกด้วย

• เสียงคำราม:

  เสียงแมวร้องขู่แสดงว่าพวกเขารู้สึกถูกคุกคามหรือรำคาญ โดยมักมาพร้อมกับท่าทางป้องกันตัวและเสียงขู่ เป็นการเตือนให้อีกฝ่ายอยู่ห่างๆ มักเป็นจุดเริ่มต้นของพฤติกรรมก้าวร้าวหากแมวรู้สึกถูกต้อนจนมุม

• เสียงโหยหวน:

  เสียงแมวร้องเสียงดังและหนักแน่นนี้เกี่ยวข้องกับอาการติดสัดโดยปกติจะได้ยินจากแมวที่ทำหมันหรือไม่ได้ทำหมัน นอกจากนี้ยังอาจเป็นเสียงร้องของแมวเพื่อแสดงอาณาเขตว่าพวกเขาอยู่ในบริเวณนั้น

วิธีตอบสนองต่อเสียงแมวและลูกแมว

• เสียงเหมียว:

  หากแมวร้องเหมียวเพื่อขออาหารหรือเรียกร้องความสนใจ ควรตอบสนองด้วยการจัดการสิ่งที่พวกเขาต้องการทันที แต่หากเสียงร้องนั้นมากเกินไปหรือสร้างความรำคาญ ควรไม่สนใจจนกว่าพวกเขาจะสงบลง แมวจะค่อยๆ เรียนรู้ว่าพฤติกรรมที่สงบนำไปสู่การตอบสนองที่ดี ช่วยลดการร้องบ่อยๆ ได้

• เสียงเพอร์:

  หากแมวของคุณส่งเสียงเพอร์ นั่นหมายถึงพวกเขารู้สึกมีความสุขและปลอดภัย ลูบหรือกอดพวกเขาต่ออย่างอ่อนโยน เพื่อให้ความสบายใจและความรักที่คุณมีให้ การที่น้องแมวร้องเพอร์แสดงว่า "ฉันมีความสุข" ซึ่งการที่คุณโต้ตอบกับพวกเขาก็แสดงว่าคุณรักพวกเขา

• เสียงขู่:

  แมวเสียงขู่แหบแสดงถึงความกลัวหรือความไม่สบายใจ ควรให้พื้นที่และหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ เพราะอาจทำให้พวกเขาเครียด ควรพยายามหาสาเหตุที่ทำให้น้องแมวรู้สึกกังวล

• เสียงจิ๊บๆ:

  หากแมวทำเสียงจิ๊บๆ ขณะมองเหยื่อนอกบ้าน นั่นคือการแสดงความตื่นเต้นหรือหงุดหงิด ลองเล่นกับพวกเขาโดยใช้ของเล่นที่กระตุ้นสัญชาตญาณการล่า เพื่อเปลี่ยนพลังงานเหล่านั้นให้เป็นกิจกรรมที่สนุกสนานและเสริมสร้างจิตใจ

• เสียงร้องหง่าว:

  เสียงหง่าวในช่วงผสมพันธุ์เป็นพฤติกรรมตามธรรมชาติ หากต้องการหยุดเสียงนี้ การทำหมันสัตว์เลี้ยงจะช่วยป้องกันเสียงเหล่านี้ได้ อย่างไรก็ตาม หากเสียงร้องนี้เกิดจากความทุกข์หรือความไม่สบาย ควรตรวจเช็คสุขภาพและปรึกษาสัตวแพทย์

• เสียงร้องแหลมสั้นๆ:

  เสียงทักทายที่เป็นมิตรนี้แสดงถึงความต้องการความรักหรือการเล่น ตอบสนองด้วยความอ่อนโยนหรือเริ่มเล่นกับพวกเขา เพื่อเสริมสร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น

การเข้าใจความหมายของเสียงแมวช่วยให้คุณตอบสนองได้อย่างเหมาะสม ทำให้แมวของคุณรู้สึกปลอดภัยและเป็นที่รัก ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้องเหมียวเพื่อขออาหารหรือเสียงขู่เพื่อแสดงความไม่สบายใจการใส่ใจกับบริบทจะช่วยให้คุณตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้ หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับเสียงแมวหรือสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรม ให้ปรึกษาสัตวแพทย์ ท้ายที่สุด เจ้าเหมียวที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีคือแมวที่มีความสุข

คำถามที่พบบ่อย