แมวควรกินอาหารวันละกี่มื้อ?

อาหารของแมว คือส่วนสำคัญที่จะตัดสินว่า แมวของคุณจะเป็นแมวสุขภาพแข็งแรง วิ่งเล่นได้ทั้งวัน หรือจะเป็นแมวอ่อนแอ เหนื่อยง่ายและขี้เกียจ การให้อาหารที่ถูกวิธีและเหมาะสมต่อแมวของคุณถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการรักษาสุขภาพของแมว หลาย ๆ คนอาจจะมีความเข้าใจผิดว่า แมวอ้วนคือแมวน่ารัก เลยให้เขากินอาหารเยอะ ๆ กินแบบบุฟเฟต์ แต่ความจริงแล้วการทานเยอะเกินไปมักจะทำให้แมวมีปัญหาสุขภาพโดยเฉพาะโรคอ้วนในแมว แต่กลับกัน การให้อาหารที่ไม่เพียงพอก็มีโอกาสทำให้ขาดสารอาหารได้เช่นเดียวกัน

ดังนั้น การให้อาหารแมวที่ถูกต้อง พิจารณาตามอายุ พันธุ์ของแมว รวมไปถึงลักษณะส่วนตัวของแมว จึงไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด

จะรู้ได้ยังไงว่าควรให้อาหารแมวกี่มื้อ ต่อวัน?

จำนวนมื้ออาหารของแมวในแต่ละวันนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ หลัก ๆ แล้วจะขึ้นอยู่กับความสะดวกของเจ้าของและความต้องการของแมว ดังนั้นไม่ต้องห่วงถ้าเกิดว่าแมวของคุณทานน้อย เพราะนิสัยของแมวแต่ละตัวนั้นไม่เหมือนกัน ดังนั้นควรสังเกตอาการอยากอาหารของแมวอย่างใกล้ชิด

ควรให้อาหารแมววันละกี่ครั้ง?

จำนวนครั้งที่เหมาะสมสำหรับแมวส่วนใหญ่คือ 2 มื้อใหญ่ต่อวัน โดยเว้นระยะห่างไม่เกิน 12 ชั่วโมง หากกินห่างกันนานเกินไปก็มีโอกาสทำให้มีภาวะกรดในกระเพาะอาหารได้ หรืออาจจะแบ่งเป็นมื้อเล็ก ๆ เช้า กลางวัน เย็น รวมไปถึงการให้ขนมระหว่างวันก็ได้ สิ่งสำคัญคือระหว่างเรื่องสารอาหารและโภชนาการ ต้องมั่นใจว่าแมวได้สารอาหารที่ต้องการในแต่ละวันอย่างครบถ้วน นอกจากนี้ อย่าลืมระวังเรื่องโซเดียมในอาหารด้วย เนื่องจากเป็นสารที่อันตรายต่อแมวมากที่สุด และมักจะผสมอยู่ในอาหารสัตว์ราคาถูก

ปริมาณอาหารแมวต่อวัน ควรเป็นเท่าไหร่?

ความต้องการอาหารของแมวนั้นจะขึ้นอยู่กับอายุเป็นส่วนใหญ่ ทำให้การกำหนด ปริมาณอาหารแมวต่อวัน จะแตกต่างกันออกไปตามช่วงวัยของแมว ดังนี้

• ลูกแมว เป็นวัยที่กำลังเจริญเติบโต จึงจำเป็นต้องให้อาหารลูกแมวหลายครั้งต่อวันในจำนวนที่เหมาะสม เพื่อให้สารอาหารเพียงพอต่อการพัฒนาการของร่างกาย อาหารของลูกแมวควรเป็นนมแพะและอาหารเปียกสูตรแมวเด็กเน้นโปรตีน ไม่แนะนำให้กินอาหารเม็ดเนื่องจากมีสารอาหารน้อย และอาจจะแข็งเกินไป
• แมวโต เมื่อแมวอายุได้ประมาณ 6 เดือน ความถี่ในการกินอาหารจะลดลง เนื่องจากร่างกายไม่ต้องการสารอาหารเยอะเหมือนตอนเด็ก และแมวโตมักใช้เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันไปกับการนอนหรือการเลียขนตัวเอง แมวโตส่วนใหญ่สามารถทานอาหารเพียงแค่วันละ 1-2 มื้อได้
• แมวสูงอายุ ยิ่งแมวอายุมากขึ้น ระบบเผาผลาญของแมวก็จะยิ่งช้าลง ทำให้การทานอาหารจะน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด อาจจะกินแค่วันละ 1 มื้อในปริมาณอาหารแมวที่น้อยลง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ

วิธีการให้อาหารแมวอย่างถูกวิธี

การให้อาหารแมวนั้นมีหลากหลายวิธี เจ้าของแมวควรเลือกปรับใช้ให้เข้ากับความสะดวก ความต้องการของแมว และปัญหาสุขภาพของแมวที่แตกต่างกันออกไป

• การให้อาหารแมวแบบบุฟเฟ่ คือการเทอาหารไว้ในถ้วยหรือเครื่องให้อาหารอัตโนมัติ โดยแมวสามารถเดินมาทานได้ตลอดเวลาตามที่ต้องการ การให้อาหารแบบนี้ควรเป็นอาหารแบบเม็ดเพราะไม่เน่าเสียเหมือนอาหารเปียก ข้อดีคือสะดวกสบายต่อเจ้าของ ข้อเสียคือแมวมีโอกาสเป็นโรคอ้วน เนื่องจากแมวส่วนใหญ่มักจะมีสัญชาตญาณการทานอาหารแบบไม่เลือก ก็คือทานตลอดเวลาที่นึกขึ้นได้ ทำให้กิน ปริมาณอาหารแมวต่อวัน เยอะเกินไป และอาจจะทำให้แมวนิสัยเสียเพราะไม่มีการฝึก
• การให้อาหารแมวเป็นมื้อ คือการเทอาหารให้แมวตามเวลาที่กำหนด อาจจะเป็นอาหารเม็ดหรืออาหารเปียกตามความสะดวกของแต่ละคน ข้อดีก็คือเป็นการฝึกนิสัยให้แมวใช้ชีวิตเป็นกิจวัตรมากขึ้น มีความอดทนมากขึ้น ไม่ทำให้แมวเป็นโรคอ้วนง่าย เจ้าของสามารถติดตามการกินอาหารของแมวได้ง่าย ข้อเสียคือใช้เวลาต่อวันค่อนข้างเยอะในการเตรียมอาหารให้แมว
• การให้อาหารแบบผสม คือการให้แบบบุฟเฟ่และการให้อาหารแมวเป็นมื้อ ผสมกัน โดยการวางอาหารเม็ดไว้ให้แมวเดินมากินได้ตลอดเวลา และให้อาหารเปียกผสมอาหารอื่น ๆ เมื่อถึงเวลาที่กำหนด วิธีนี้อาจจะเหมาะกับแมวบางตัวที่เลือกกินจนขาดสารอาหาร หรือแมวที่ทานยาก เพราะทำให้แมวรู้เวลาอาหารของตัวเอง และระหว่างวันก็อาจจะกินอาหารเม็ดเพื่อเพิ่มสารอาหารด้วย

การให้อาหารแมวที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพทำอย่างไร?

โรคต่าง ๆ ของแมวหรือปัญหาสุขภาพของแมวนั้นจำเป็นต้องปรับ การให้อาหารแมวอย่างถูกวิธี เพื่อให้เข้ากับภาวะสุขภาพของแมวแต่ละตัวที่แตกต่างกันออกไป หากมองข้ามหรือให้อาหารแมวไม่เหมาะสมมีโอกาสทำให้แมวเสียชีวิตได้

• โรคเบาหวาน ต้องกินอาหารเป็นมื้อเพื่อป้องกันแมวกินอาหารมากเกินไป ควรเน้นอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำเนื่องจากคาร์โบไฮเดรตเป็นสารอาหารที่เต็มไปด้วยน้ำตาลซึ่งไม่จำเป็นต้องแมว
• ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน ภาวะนี้ทำให้ร่างกายของแมวเผาผลาญเร็วผิดปกติ ส่งผลให้น้ำหนักลด สูญเสียกล้ามเนื้อ ดังนั้นอาหารที่มีโปรตีนและแคลอรี่สูงจึงจำเป็นอย่างมากเพื่อรักษามวลร่างกาย ควรเป็นอาหารที่อร่อยและกลิ่นแรงเพื่อให้แมวสามารถทานได้เยอะ
• ปัญหาเกี่ยวกับฟัน เช่น ฟันกร่อน อาจจะทำให้แมวรู้สึกเจ็บฟันเมื่อทานอาหารเม็ด การเปลี่ยนให้แมวทานอาหารเปียกหรืออาหารเม็ดผสมน้ำจึงเป็นตัวเลือกที่ดีมาก ๆ

คำถามที่พบบ่อย