มัดรวมข้อดีของการให้อาหารเปียกแมว

แมวเป็นสัตว์ช่างกินและชอบอาหารหลากหลายเนื้อสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นอาหารเม็ด อาหารเปียก หรืออาหารเสริมแบบต่าง ๆ รวมถึงอาหารหลากหลายรสชาติ เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า เนื้อวัว ชีส กุ้ง และไก่ ตามร้านขายอาหารสัตว์มีอาหารแมวให้เลือกมากมายจนทาสแมวหลายคนอาจตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกอาหารแบบใดให้เจ้านายสุดที่รักดี แต่ไม่ต้องห่วงเลย บทความนี้ช่วยคุณได้! เมื่ออ่านจบคุณจะสามารถกำหนดตารางการให้อาหารเจ้าเหมียวได้อย่างเหมาะสม รวมถึงเข้าใจความแตกต่างระหว่างอาหารแมวแบบเม็ดและแบบเปียกอีกด้วย

ปัจจัยในการเลือกอาหารแมว

• คุณค่าทางโภชนาการ

  หากดูตามคุณค่าทางโภชนาการ อาหารแมวสามารถแบ่งออกเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและอาหารเสริม อาหารแมวที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนเหมาะสำหรับลูกแมววัยกำลังโตและแมวโตเต็มวัยเพราะมีสารอาหารสำคัญ รวมทั้งมีโปรตีนและไขมันสูงซึ่งจำเป็นมากสำหรับลูกแมวเพราะร่างกายกำลังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่วนอาหารเสริมนั้นสามารถให้เพิ่มเติมจากอาหารหลัก โดยควรได้รับคำแนะนำจากสัตวแพทย์เพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าเหมียวได้รับสารอาหารสำคัญครบถ้วน

• ช่วงวัย

  ความต้องการทางโภชนาการของน้องแมวจะแตกต่างกันไปตามช่วงวัย ลูกแมวแรกเกิดจนถึงอายุ 6 สัปดาห์จะยังไม่สามารถเคี้ยวและย่อยอาหารได้ อาหารหลักของพวกเค้าจึงเป็นโคลอสตรุมหรือน้ำนมแม่ เมื่อลูกแมวตัวน้อยเริ่มเติบโตขึ้นถึงจะสามารถเปลี่ยนมาให้อาหารเม็ดหรืออาหารเปียกได้ ทั้งนี้เมื่อโตขึ้น น้องแมวจะสูญเสียความสามารถในการย่อยน้ำตาลแลคโตสในนม จึงไม่แนะนำให้น้องแมวโตกินนม สำหรับน้องแมวสูงวัยนั้น การย่อยอาหารอาจไม่ดีเท่าน้องแมวในวัยอื่น อาจต้องเปลี่ยนมาให้อาหารแมวเปียกหรืออาหารปรุงเองแทน

• ราคา

  หากแบ่งประเภทอาหารตามราคา เราจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2  ประเภท คือ อาหารเกรดทั่วไปและอาหารเกรดพรีเมียม ซึ่งราคาของอาหารเกรดทั่วไปจะไม่แพงมาก เข้าถึงได้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นอาหารแบบเม็ด สำหรับอาหารเกรดพรีเมียม ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารแมวเปียกและขนมแมวเลีย

• ภาวะสุขภาพ

  การเลือกอาหารให้น้องแมวขึ้นอยู่กับภาวะสุขภาพหรือสภาพร่างกายของพวกเค้าด้วย เจ้าของควรหมั่นสังเกตอาการผิดปกติที่อาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพ เช่น อาการอาเจียนหรือท้องเสียอย่างต่อเนื่องเป็นสัญญาณเตือนว่าน้องแมวกำลังป่วย จึงควรหลีกเลี่ยงการให้ขนมหรืออาหารแปลกใหม่ และให้น้องแมวกินอาหารอ่อน ๆ ย่อยง่าย เช่น อกไก่นึ่งไม่ปรุงรส

• รูปแบบการใช้ชีวิต

  กิจวัตรประจำวันก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเลือกอาหาร น้องแมวส่วนใหญ่มักจะเลียขนทำความสะอาดตัวเองอยู่เสมอ การขย้อนก้อนขนออกมาจึงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่หากเกิดขึ้นบ่อยและต่อเนื่อง ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของพวกเค้าได้ การเลือกอาหารสูตรที่ช่วยลดปัญหาก้อนขนจึงเป็นตัวเลือกที่ดี หรือหากน้องแมวไม่ชอบกินน้ำ ก็แนะนำให้เลือกอาหารเปียกแทนอาหารเม็ด

อาหารแมวแบบเปียก vs อาหารแมวแบบเม็ด

หากแบ่งประเภทของอาหารตามปริมาณความชื้น อาหารแมวมักจะถูกจำแนกออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ อาหารแมวแบบเปียก อาหารแมวแบบเม็ด และอาหารหรือขนมแมวกึ่งเปียก

• อาหารแมวแบบเม็ด (มีปริมาณความชื้นน้อยกว่า 14%)

  อาจกล่าวได้ว่าอาหารเม็ดได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะเก็บรักษาไว้ได้ยาวนาน มีรสชาติหลากหลายให้เลือก และมีราคาไม่แพง ทั้งนี้อาหารเม็ดมักจะมีปริมาณความชื้นประมาณ 14% ซึ่งน้อยกว่าอาหารเปียกลูกแมว

• อาหารแมวแบบเปียก (มีปริมาณความชื้นมากกว่า 60%)

  อาหารแมวแบบเปียกมีเนื้อสัมผัสที่หลากหลาย มีให้เลือกทั้งแบบมูสและแบบชิ้นในน้ำเกรวี่ อีกทั้งยังมีปริมาณความชื้นสูงเกือบถึง 60% แม้ว่าอาหารเปียกจะเน่าเสียง่าย แต่หากเก็บรักษาอย่างถูกวิธี อาหารเปียกลูกแมวก็จะอยู่ได้นานเป็นสัปดาห์ ทั้งนี้อาหารเปียกมักมีราคาสูงกว่าอาหารเม็ด แต่มีปริมาณแคลอรี่ต่ำกว่า

• อาหารแมวแบบกึ่งเปียก (มีปริมาณความชื้น 14 - 59%)

  อาหารหรือขนมชนิดนี้ไม่เหมาะจะเป็นอาหารหลักและไม่ควรให้กินเป็นประจำ เนื่องจากมีปริมาณแคลอรี่สูงกว่าอาหารทั้งสองชนิดข้างต้น หากได้รับปริมาณมากเกินไป อาจทำให้น้องแมวเสี่ยงต่อโรคอ้วนได้ง่าย แนะนำให้ใช้เป็นรางวัลหรือตัวช่วยระหว่างการฝึกทักษะ หรือจะให้เพียงเพื่อสานสัมพันธ์ก็ได้เช่นกัน

ข้อดีของอาหารแมวแบบเปียก

ถือเป็นเรื่องที่ดีหากน้องแมวกินอาหารเปียก เพราะมีสารอาหารครบถ้วนและช่วยให้เจ้าเหมียวได้รับน้ำเพิ่มขึ้น นอกจากนี้การที่ลูกแมวกินอาหารเปียกยังส่งผลดีต่อสุขภาพในด้านต่าง ๆ ด้วย

• ลดโอกาสเสี่ยงต่อปัญหาในระบบทางเดินปัสสาวะ

  น้องแมวส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบน้ำ ซึ่งส่งผลไปถึงการกินน้ำในแต่ละวันของพวกเค้า เมื่อได้รับน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการ ก็อาจนำไปสู่ปัญหาในระบบทางเดินปัสสาวะได้ อาหารเปียกจึงกลายเป็นตัวช่วยที่ดีในการเพิ่มปริมาณน้ำในร่างกายให้เจ้าเหมียว

• ช่วยควบคุมน้ำหนัก

  สำหรับน้องแมวที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก อาหารเปียกคือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม เพราะมีปริมาณน้ำสูงแต่มีแคลอรี่ต่ำ จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคอ้วนในแมวได้ นอกจากนี้อาหารเปียกยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีส่วนช่วยเสริมการทำงานของลำไส้และระบบทางเดินอาหาร จึงมั่นใจได้ว่าเจ้าตัวน้อยจะมีสุขภาพดีและมีความสุขในทุกวัน

• ลดอาการท้องผูก

  เมื่อกินแต่อาหารเม็ดเป็นเวลานาน อาจทำให้เจ้าเหมียวมีภาวะขาดน้ำ ซึ่งนำไปสู่ปัญหาเกี่ยวกับไตและอาจมีอาการท้องผูกได้ จึงควรเปลี่ยนมาให้อาหารแมวเปียกบ้างเป็นครั้งคราว เพราะมีปริมาณน้ำสูง ช่วยให้เจ้าเหมียวได้รับน้ำเพิ่มมากขึ้น ช่วยให้ขับถ่ายเป็นปกติ รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงของอาการเกิดท้องผูกและอาหารไม่ย่อยอีกด้วย

• รสชาติอร่อยถูกใจเจ้าเหมียว

  อาหารเปียกมีรสชาติอร่อยเข้มข้น จึงกลายมาเป็นอาหารสุดโปรดของเจ้าเหมียว นอกจากความอร่อยใจละลายแล้ว อาหารเปียกยังกินง่ายกว่าอาหารเม็ด มีรสชาติและเนื้อสัมผัสให้เลือกหลากหลายกว่าด้วย

• ได้รับปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น

  เพื่อให้ร่างกายย่อยโปรตีนจากสัตว์และไขมันได้อย่างเต็มที่ น้องแมวต้องได้รับน้ำในปริมาณที่เหมาะสม แต่ถ้าเจ้าตัวน้อยไม่ชอบกินน้ำเลย อาหารเปียกอาจเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดของคุณ!

ข้อดีของอาหารแมวแบบเม็ด

• สะดวก

  ประโยชน์หลักของอาหารเม็ดคือความสะดวก ให้ง่ายไม่ยุ่งยากเหมือนอาหารเปียก มักมาในรูปแบบซอง เพียงฉีกและเทลงชามก็พร้อมเสิร์ฟความอร่อยให้เจ้าเหมียวแล้ว อีกทั้งยังเก็บไว้ได้นาน ไม่เสียง่ายแม้จะเททิ้งไว้ทั้งวัน

• ให้อาหารได้ตลอดเวลา

  พ่อแม่แมวหลายคนมักให้อาหารแมวด้วยการเทอาหารเม็ดไว้เยอะ ๆ เพื่อให้เจ้าเหมียวสามารถกินอาหารมากแค่ไหนก็ได้และเมื่อไหร่ก็ได้ เหมาะสำหรับทาสแมวที่ต้องออกไปทำงานทุกวันและปล่อยให้เจ้าเหมียวอยู่บ้านตามลำพังเป็นเวลานาน

• ให้อาหารง่าย

  ทาสแมวสามารถเสิร์ฟอาหารเม็ดให้เจ้าเหมียวได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องอุ่นก่อนเสิร์ฟเหมือนอาหารเปียก เพียงแค่เทลงชามในปริมาณที่เหมาะสม เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น! นอกจากนี้อาหารเม็ดยังมักมาในรูปแบบซองบรรจุภัณฑ์ที่เปิดปิดได้ง่าย จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการเก็บรักษามากนัก

• ช่วยให้สุขภาพช่องปากและฟันดีขึ้น

  อาหารเม็ดมีประโยชน์อย่างมากต่อสุขภาพฟันของน้องแมว เนื่องจากมีเนื้อสัมผัสที่เหมาะกับการขัดฟัน จึงช่วยป้องกันการสะสมของแบคทีเรียหรือคราบพลัคได้ดี โดยน้องแมวที่กินอาหารเม็ดจะมีความเสี่ยงต่อโรคเหงือกอักเสบหรือมีหินปูนน้อยกว่าน้องแมวที่กินเฉพาะอาหารเปียก

ข้อเสียของอาหารแมวแบบเปียก

• ราคาแพง

  ข้อเสียอย่างหนึ่งของอาหารเปียกคือราคาสูง การให้อาหารเปียกแมวทุกวันจึงไม่ใช่ทางเลือกที่น่าสนใจมากนัก เพราะมันอาจทำให้เงินในกระเป๋าของคุณหมดลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเสิร์ฟอาหารเปียกให้เจ้าเหมียวบ้างเป็นครั้งคราวได้ เพื่อความพิเศษให้กับมื้ออาหารของพวกเค้า

• เก็บไว้ได้ไม่นาน

  เราไม่สามารถเทอาหารเปียกทิ้งไว้ทั้งวันได้เหมือนกับอาหารเม็ด แม้ว่าจะมาในบรรจุภัณฑ์ที่มิดชิดและเก็บรักษาไว้ได้นาน แต่เมื่อเปิดบรรจุภัณฑ์แล้วก็ต้องรีบบริโภคในทันที เนื่องจากมีปริมาณน้ำสูง ทำให้เน่าเสียได้ง่าย

• เสี่ยงต่อการปนเปื้อน

  อีกหนึ่งข้อเสียที่สำคัญของอาหารเปียกคือเสี่ยงต่อการปนเปื้อน เนื่องจากมีความชื้นสูง จึงอาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแบคทีเรียชั้นดี หากไม่ได้เก็บไว้ในที่เย็นและแห้ง นอกจากการเน่าเสียจากแบคทีเรียแล้ว อาหารเปียกยังปนเปื้อนได้ง่ายจากปฏิกิริยาทางเคมีหากเททิ้งไว้โดยไม่เก็บรักษาดี ๆ

ข้อเสียของอาหารแมวแบบเม็ด

• เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพ

  การเทอาหารเม็ดทิ้งไว้ให้น้องแมวแบบไม่จำกัดปริมาณอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพหลายอย่าง เช่น อาการท้องผูกและโรคไต รวมถึงเมื่อกินอาหารได้มากเท่าที่ต้องการ ก็อาจทำให้เจ้าเหมียวมีปัญหาน้ำหนักเกินได้ เนื่องจากอาหารเม็ดมักมีแคลอรี่สูง

• มีปริมาณความชื้นน้อย

  น้องแมวควรได้รับน้ำในปริมาณที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งอาหารเม็ดอาจไม่ใช่ตัวช่วยที่ดีในเรื่องนี้ เนื่องจากมีปริมาณความชื้นน้อย โดยมีต่ำกว่า 14% อีกทั้งการย่อยอาหารเม็ดยังต้องใช้น้ำมาก ส่งผลให้น้องแมวต้องการน้ำมากขึ้นกว่าเดิม

บทสรุป

อาหารเม็ดและอาหารเปียกมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป การให้อาหารแบบผสมจึงเป็นวิธีที่แนะนำมากที่สุด เพื่อให้น้องแมวได้รับสารอาหารครบถ้วนและสมดุล พร้อมรับประโยชน์จากการกินอาหารทั้งสองชนิดได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้น หรือได้รับน้ำในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการ อีกทั้งยังเพิ่มความหลากหลายให้กับมื้ออาหาร และช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการให้อาหารน้องแมว